สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 พ.ค.) และบวกขึ้นรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้เริ่มปรับลดการผลิตน้ำมันลงมากเป็นประวัติการณ์ เพื่อรับมือกับภาวะน้ำมันล้นตลาดซึ่งเกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. บวก 94 เซนต์ หรือ 5% ปิดที่ 19.78 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 16.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 26.44 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 6.6% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปก, รัสเซีย และผู้ผลิตรายอื่นๆ หรือที่เรียกว่ากลุ่มโอเปกพลัส ได้ตกลงที่จะลดการผลิตน้ำมันดิบลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป
ตลาดน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทด้านพลังงานของสหรัฐได้ลดแท่นขุดเจาะน้ำมันลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานทั้งหมดในสหรัฐ ลดลงสู่ระดับ 325 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2559
ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นขานรับแนวโน้มอุปสงค์ที่ฟื้นตัว เนื่องจากหลายประเทศและภูมิภาคได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้อยกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 10.6 ล้านบาร์เรล