สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 20% เมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) และทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ขานรับการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รวมทั้งความหวังที่ว่า อุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 4.17 ดอลลาร์ หรือ 20.5% ปิดที่ 24.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 3.77 ดอลลาร์ หรือ 13.9% ปิดที่ 30.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เริ่มปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ขณะที่นอร์เวย์และแคนาดาก็ได้ปรับลดกำลังการผลิตเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังพุ่งขึ้นจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า อุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากรัฐบาลของประเทศต่างๆในยุโรป และรัฐหลายแห่งในสหรัฐได้เริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะมีการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะอนุญาตให้ธุรกิจค้าปลีกบางส่วนกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยทางรัฐจะดำเนินการอย่างรอบคอบระมัดระวัง
ทางด้านนายเจย์ อินสลีย์ ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันได้ประกาศแผน Safe Start ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐวอชิงตันสามารถทยอยเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง โดยเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ มีรายงานว่ารัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 พ.ค.