สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า การเริ่มเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศจะช่วยให้ความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 6.8% ปิดที่ 25.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 29.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับรายงานที่ว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้สั่งการให้ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. นอกเหนือจากที่ได้ปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
การลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในครั้งนี้ ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียลดกำลังการผลิตรวม 4.8 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. และจะทำให้ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.492 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัส ซาอุดีอาระเบียมีกำหนดผลิตน้ำมันที่ระดับ 8.492 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.และมิ.ย.
ทางด้านสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ และคูเวตระบุเช่นกันว่าจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมตามซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองประเทศจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 180,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองเป็นบวกว่า การเริ่มเปิดเศรษฐกิจในหลายประเทศจะช่วยให้ความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดน้อยลงด้วย
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.