สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงในช่วงขาลง โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 25.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 79 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 29.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงในช่วงขาลง
นายพาวเวลยังระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะขึ้นอยู่กับคำถามมากมายเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 เช่น จะใช้เวลานานเท่าใดก่อนที่จะมียารักษา และการยกเลิกมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหม่หรือไม่ รวมทั้งความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคจะกลับมาเมื่อใด
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน WTI ร่วงลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 62.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล