สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รวมทั้งมุมมองบวกที่ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากประเทศต่างๆเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยปัจจัยดังกล่าวได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมิ.ย.ปิดตลาดในแดนบวกก่อนครบกำหนดส่งมอบเมื่อคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 32.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 34.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นหลังจากหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตกลงกันที่จะลดการผลิตน้ำมันลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค.และมิ.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะจัดการกับปริมาณน้ำมันส่วนเกินที่เกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าบริษัทพลังงานในสหรัฐได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงนั้น ยังคงเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 35 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 339 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเมื่อปี 2483 หรือเมื่อ 80 ปีก่อน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ค.