สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะประชุมกันในวันเสาร์นี้ (6 มิ.ย.) เพื่อหารือเรื่องการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก และราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะทำให้อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 39.55 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดพุ่งขึ้น 11.4% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 5.8% ปิดที่ 42.30 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดพุ่งขึ้น 11.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันเสาร์นี้ ซึ่งนักลงทุนคาดว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะเห็นพ้องกันให้ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ซาอุดีอาระเบียยืนยันว่า การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัสจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 มิ.ย.นี้
"สถานการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยให้การประชุมประสบความสำเร็จ โดยเรากำลังร่วมมือกันเพื่อให้มีการจัดการประชุมโอเปกและโอเปกพลัสในช่วงบ่ายวันเสาร์นี้" เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียกล่าว
สื่อรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียได้เห็นพ้องกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน WTI ยังได้แรงหนุนจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงในสหรัฐด้วย โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนลดลง 16 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 206 แท่น โดยแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงรายสัปดาห์นับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. บ่งชี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐจะลดลงอีก