ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเกือบ 4% ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า ความต้องการใช้น้ำมันอาจชะลอตัวลงหลังมีรายงานยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 นั้น อาจต้องใช้เวลาหลายปี
ณ เวลา 14.45 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ หรือ 3.94% แตะที่ 38.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
ที่ประชุมเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% เมื่อวานนี้ และยืนยันว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 5% ในปี 2564 และเฟดยังส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ไปจนถึงปี 2565