สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐจะปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 37.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกลุ่มโอเปกพลัสบรรลุที่ข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (shale oil) ของผู้ผลิตรายใหญ่ 7 รายในสหรัฐจะลดลงราว 93,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.
ตลาดได้รับปัจจัยบวกมากขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ -0.2 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -35.0 หลังจากแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.
นักลงทุนรอดูคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ซึ่งจะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหารือสถานการณ์ล่าสุดของตลาดน้ำมันโลก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า JMMC จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่โอเปกพลัส แต่การตัดสินใจปรับเปลี่ยนปริมาณการผลิตน้ำมันจะขึ้นอยู่กับการประชุมของโอเปกพลัส ซึ่งบ่งชี้ว่าการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหม่จะยังไม่เกิดขึ้นในระยะนี้ หลังจากที่โอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ JMMC ซึ่งประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก แอลจีเรีย คูเวต เวเนซุเอลา ไนจีเรีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคาซัคสถาน จะจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทุกเดือนจนถึงสิ้นปีนี้