สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ รายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 38.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 40.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก IEA เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันเมื่อวานนี้ โดยคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับการประเมินในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคน้ำมันที่มากเกินคาดในช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์
IEA ระบุว่า อุปทานน้ำมันลดลงเกือบ 12 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโอเปกพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 89% ของข้อตกลงลดการผลิต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.0% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 มิ.ย.