สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ แม้ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายรัฐเพิ่มขึ้นก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 41.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 15.8% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 18.1% ในเดือนเม.ย. โดยการพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพ.ค. ได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ แม้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายรัฐก็ตาม โดยสำนักข่าว NBC รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐอยู่ที่ 45,557 ราย ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ในวันที่ 26 เม.ย.กว่า 9,000 ราย
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อในรัฐแถบตะวันตกและทางใต้ของสหรัฐอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันหยุดทหารผ่านศึก ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นในหลายรัฐได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และประกาศเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง