สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบในปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 93 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 40.55 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 43.24 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจาก IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2563 สู่ระดับ 92.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรลต่อวันจากการคาดการณ์แนวโน้มเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุว่าอุปสงค์ลดลงน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 เนื่องจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม IEA ยังคงเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยระบุว่า "จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และการกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนนั้นทำให้การคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันมีความไม่แน่นอนมากขึ้น"
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยจะมีการหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งมีกำหนดสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา โอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.