สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 45 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 40.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 43.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ ไปจนถึงสิ้นปี 2563 โดยโอเปกพลัสระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการที่ประเทศต่างๆกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวบ่งชี้ว่า จะมีน้ำมันดิบในปริมาณ 2 ล้านบาร์เรล/วันจากกลุ่มโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดสัญญาดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง
อย่างไรก็ดี โอเปกพลัสระบุว่าอาจจะมีการจัดประชุมฉุกเฉินในวันข้างหน้าเพื่อทบทวนข้อตกลง หากรัฐบาลของประเทศต่างๆประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 13,724,443 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 587,600 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3,617,474 ราย และมีผู้เสียชีวิต 140,160 ราย