สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 40.59 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวขึ้น 0.1% ในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 0.2% ในสัปดาห์นี้
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตือนในรายงานประจำเดือนล่าสุดว่า ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะถ่วงตลาดน้ำมันลง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจเมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่จะผ่อนคลายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โอเปกพลัสเห็นชอบให้ปรับลดการผลิตน้ำมันเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนส.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 14,147,699 ราย และมียอดผู้เสียชีวิต 597,879 ราย
สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 3,757,725 ราย และมีผู้เสียชีวิต 141,881 ราย
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 253 แท่น ซึ่งเป็นการทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเมื่อปี 2483 หรือเมื่อ 80 ปีก่อน