สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งการที่สหภาพยุโรป (EU) บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 41.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 44.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยนายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความยินดีต่อรายงานที่ว่า วัคซีนที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์
ขณะที่ The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีน Ad5 ในเฟส 2 ในมนุษย์ที่มีการดำเนินการในจีน พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวผู้นำ 27 ชาติของ EU ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยวงเงินดังกล่าวประกอบด้วยเงินให้เปล่าจำนวน 3.90 แสนล้านยูโร และเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำจำนวน 3.60 แสนล้านยูโร
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค.