สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลง ยังทำให้นักลงทุนหวั่นวิตกว่าจะมีการล็อกดาวน์เศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันซบเซาลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 41.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 98 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 43.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
การพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน โดยกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันในการจารกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ ขณะที่จีนขู่ตอบโต้มาตรการดังกล่าว โดยอาจมีการประกาศลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกง
ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 15,403,898 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 631,003 ราย ขณะที่สหรัฐยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 4,101,308 ราย และมีผู้เสียชีวิต 146,192 ราย