สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของของไวรัสโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 41.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ขยับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 43.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.82% สู่ระดับ 93.6738 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยWorldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ใกล้แตะระดับ 16.5 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 650,000 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 4,370,000 ราย เสียชีวิตเกือบ 150,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อพิทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนได้เข้ายึดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเฉิงตูแล้ว หลังจากที่ได้สั่งให้สหรัฐปิดสถานกงสุลดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน พร้อมกับกล่าวหาว่าจีนได้ทำการจารกรรมข้อมูลลับของสหรัฐ
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย