สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 41.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 43.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 10.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค.
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ใกล้แตะระดับ 17 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 664,000 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 4,500,000 ราย เสียชีวิตกว่า 150,000 ราย