สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยราคาน้ำมันร่วงหลุดจากระดับ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 41.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 19 ล้านราย และมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 แสนราย
ทั้งนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 5 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.6 แสนราย
อย่างไรก็ดี ข้อมูลแรงงานที่ดีเกินคาดของสหรัฐได้ช่วยสกัดแรงลบของราคาน้ำมันในระหว่างวัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.186 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ล้านราย และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยล่าสุดนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไม่ช้า พร้อมกับกล่าวว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็มีความต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมาร์ก มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ