สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 42.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 45.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 2.9 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ข้อมูลของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 700,000 บาร์เรล สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล