สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนวางแผนที่จะนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐในเดือนส.ค.-ก.ย. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากสื่อรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตมากถึง 97% ในเดือนก.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 42.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 45.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัทน้ำมันของรัฐบาลจีนมีแนวโน้มที่จะสั่งนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐอย่างน้อย 20 ล้านบาร์เรลในเดือนส.ค.-ก.ย.
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตมากถึง 97% ในเดือนก.ค. ซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 4 แท่น สู่ระดับ 172 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันพุธนี้ ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียกล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ผู้ผลิตน้ำมันจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกในขณะนี้
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ปรับลด 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 2563 โดยโอเปกพลัสระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากการที่ประเทศต่างๆกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย