สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 42.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 1%, ปิดที่ 44.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดอ่อนแรงลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.106 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 923,000 ราย
การเพิ่มขึ้นของจำนวนคนว่างงานในสหรัฐทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้พลังงาน นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังเป็นการตอกย้ำมุมมองด้านลบของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรากฎในรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค. ซึ่งระบุว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า ในระยะใกล้นี้ วิกฤตด้านสาธารณสุขจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ และวิกฤตดังกล่าวเป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง"
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงยืดเยื้อต่อไป
ทั้งนี้ ร่างแถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า การแพร่ระบาดรอบที่ 2 ของไวรัสโควิด-19 จะสร้างความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของตลาดน้ำมัน ขณะเดียวกัน โอเปกพลัสยังเตือนให้สมาชิกบางประเทศ เช่น อิรักและไนจีเรีย ผลิตน้ำมันตามโควตา หลังจากที่ได้ผลิตเกินโควตาในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค.