สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า บริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงกว่า 80% เนื่องจากกังวลผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 43.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 45.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ปีนี้
รายงานล่าสุด ณ วันอังคารที่ 25 ส.ค.ของสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ระบุว่า เฮอร์ริเคนมาร์โคและพายุโซนร้อนลอราที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโก ได้ส่งผลบริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกปรับลดกำลังผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งแล้วประมาณ 84.3% หรือประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปรับลดกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติลงเกือบ 61%
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกคิดเป็นสัดส่วน 17% ของการผลิตในสหรัฐ ส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 5%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เมื่อวานนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก และเพื่อรับประกันความสำเร็จของข้อตกลงดังกล่าว
นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค.