สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกนั้น จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการผลิตน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว และเชื่อว่าการผลิตน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นในไม่ช้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 43.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 55 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนต.ค.จะครบกำหนดส่งมอบในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.
ข้อมูลล่าสุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.ของสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ระบุว่า อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนลอราส่งผลให้บริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบนอกชายฝั่งประมาณ 84.3% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันพุธ ขณะที่การปรับลดกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 60.1% ลดลงจากระดับของวันพุธซึ่งอยู่ที่ 60.9%
ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกคิดเป็นสัดส่วน 17% ของการผลิตในสหรัฐ ส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติคิดเป็น 5%
รายงานระบุว่า เฮอร์ริเคนลอราได้พัดขึ้นฝั่งรัฐลุยเซียนาเมื่อวานนี้ ด้วยความเร็วลม 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งสร้างความเสียหายต่ออาคารหลายแห่ง และทำให้ประชาชนกว่า 4 แสนคนในรัฐลุยเซียนาและเท็กซัสไม่มีไฟฟ้าใช้ อย่างไรก็ดี สถานการณ์คลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) ที่เกิดจากอิทธิพลของเฮอร์ริเคนลอรานั้น น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ซึ่งช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
ทางด้านบริษัทบีพีแถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้เตรียมความพร้อมที่จะกลับมาดำเนินการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่น้ำลึกของอ่าวเม็กซิโกอีกครั้ง และในขณะนี้ทางบริษัทกำลังประเมินความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน