สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน หลังยอดติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทะลุกหลัก 25 ล้านรายแล้วในขณะนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 42.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 53 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 45.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเดือนส.ค. อยู่ที่ 55.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.2 ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนอยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 25,413,773 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 851,079 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 6,175,008 ราย และมีผู้เสียชีวิต 187,227 ราย
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม หากพิจารณาตลอดเดือนส.ค.พบว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 5.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนติดต่อกันเดือนที่ 4 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นเกือบ 4.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนติดต่อกันเดือนที่ 5
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพุธนี้