สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) ขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐและจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 42.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 45.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.5
ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว โดยขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
ข้อมูลดังกล่าวของสถาบัน ISM สอดคล้องกับรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 50.9 ในเดือนก.ค.
ขณะที่ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. พุ่งขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนจะอยู่ที่ 52.7 ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์