สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) โดยปิดต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน, การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 39.77 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดร่วงลงเกือบ 7.5% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.41 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 42.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. และปิดร่วงลง 6.9% ในรอบสัปดาห์นี้
Dow Jones Market Data บ่งชี้ว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.
ยูจีน ไวน์เบิร์ก นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชระบุว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้
ไวน์เบิร์กเตือนว่า "เมื่อราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็อาจกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายอีกระลอก"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกด้วย