สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันยังคงซบเซาในขณะนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 75 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 37.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 73 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 40.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้จำนวน 210,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.32 ล้านบาร์เรล/วัน