สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ขณะที่ตลาดยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนแอ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 37.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 39.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 6.1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 6.6%
นักลงทุนยังคงลังเลที่จะเข้าซื้อสัญญาน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ตลาดการเงินยังปรับตัวย่ำแย่
ยูจีน ไวน์เบิร์ก นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ชระบุว่า "ตลาดการเงินมีส่วนกำหนดทิศทางตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินได้สร้างความไม่แน่นอนในตลาด"
"ความต้องการน้ำมันที่อ่อนแอทั่วโลก และการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกนั้น มีแนวโน้มที่จะกดดันราคาน้ำมันต่อไป"
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจลดลง 500,000 บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน EIA ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้จำนวน 210,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.32 ล้านบาร์เรล/วัน
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมคณะกรรมการสังเกตการณ์ตลาดของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 17 ก.ย.นี้ โดยคณะกรรมการอาจมีการหารือกันเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า การประชุมดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การกำชับให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต มากกว่าที่จะพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตลงอีก