สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังมีรายงานว่าพายุเฮอร์ริเคน "แซลลี" ทวีความรุนแรงสู่ระดับ 2 และกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 37.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 22 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 39.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากโอเปกปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอินเดีย และประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้ โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 90.2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยลดลง 400,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวยังลดลง 9.5 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับอุปสงค์ในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน โอเปกเตือนว่า อุปสงค์น้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 และยังคงมีความเสี่ยงในช่วงขาลง เมื่อพิจารณาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า พายุเฮอร์ริเคนแซลลีได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับที่ 2 และกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านพยากรณ์อากาศเตือนว่า พายุลูกนี้มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเฮอร์ริเคนระดับที่ 3
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการสังเกตการณ์ตลาดของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 17 ก.ย. โดยทางคณะกรรมการฯอาจมีการหารือกันเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า การประชุมดังกล่าวจะเน้นการกำชับให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต มากกว่าที่จะพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย