สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 10.1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 43.15 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 8.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ "โอเปกพลัส" ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และที่ประชุมมีมติเห็นพ้องที่จะให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
ในการประชุมโอเปกพลัสดังกล่าว ที่ประชุมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 2563
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียกล่าวเปิดการประชุมออนไลน์ของ JMMC โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตอย่างเคร่งครัด พร้อมกับกล่าวว่า คณะกรรมการควรหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบที่ตลาดน้ำมันได้รับจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า กลุ่มโอเปกพลัสมีแผนที่จะจัดการประชุมรอบพิเศษอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้ หากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ตลาดน้ำมันจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันราว 3 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4/2563 และได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขึ้นสู่ระดับ 49 ดอลลาร์ในช่วงปลายปีนี้ และ 65 ดอลลาร์ภายในไตรมาส 3 ของปีหน้า