สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) ขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 39.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 41.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 4 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี แม้ราคาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก แต่ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการเข้มงวกที่รัฐบาลของหลายประเทศนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า ลิเบียอาจจะส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น หลังพลเอกคาลิฟา ฮัฟทาร์ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบีย ประกาศยุติการปิดล้อมโรงงานน้ำมันในประเทศ