สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงในระยะยาว ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 39.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 41.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ปีนี้
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 33 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1 ล้านราย โดยสหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก โดยมีจำนวนมากกว่า 7 ล้านราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 แสนราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในโลกเช่นกัน
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด จากการที่ลิเบียและอิหร่านเพิ่มการส่งออกน้ำมัน ขณะที่บริษัทเชลล์ได้เช่าเรือบรรทุกน้ำมันสำหรับการขนส่งน้ำมันจากท่าเรือลิเบียในวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งนับเป็นการขนส่งน้ำมันออกจากท่าเรือลิเบียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวมีวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรคเดโมแครตพยายามผลักดันให้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย.