สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ณ เวลา 22.09 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.97% สู่ระดับ 39.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 831,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะทำการเจรจาครั้งใหม่กับนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันนี้ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายมนูชินกล่าวว่า เขามีความหวังว่าเขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับนางเพโลซีในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
"เราจะใช้ความพยายามอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง และเรามีความหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จ ซึ่งผมคิดว่าเราจะประนีประนอมกันได้" นายมนูชินกล่าว
ทางด้านนางเพโลซีแสดงความหวังเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงกับนายมนูชินเช่นกัน
นางเพโลซีระบุว่า พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ และทางพรรคก็มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคาน้ำมันถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่จะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19