สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 40.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไพร์ซ ฟิวเจอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย. โดยลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 831,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ย.
ข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 34 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1 ล้านราย ขณะที่สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลก โดยมีจำนวนมากกว่า 7 ล้านราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 แสนราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในโลกเช่นกัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 160,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค. โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มการผลิตของลิเบียและอิหร่าน