สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวว่า การผละงานประท้วงเป็นเวลา 10 วันของแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ได้ยุติลงแล้ว ซึ่งข่าวดังกล่าวได้คลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับผลกระทบด้านการผลิตน้ำมัน และทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 40.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 42.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 9.6% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 9.1%
ตลาดน้ำมันปรับตัวลงจากข่าวที่ว่า แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ได้ยุติการผละงานประท้วงเป็นเวลา 10 วันแล้วในวันศุกร์ หลังจากการเจรจาระหว่างสมาคมผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันนอร์เวย์ (NOG) ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทน้ำมัน และเจ้าหน้าที่สหภาพ Lederne รวมทั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ยจากทางรัฐบาล โดยสหภาพแรงงานมีความพอใจกับข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับค่าจ้างจากฝ่ายบริหารของบริษัทน้ำมัน ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยเพิ่มขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 193 แท่น
ก่อนหน้านี้ ตลาดน้ำมันปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการผละงานประท้วงของแรงงานซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์ และการระงับการผลิตน้ำมันที่อ่าวเม็กซิโกหลังจากพายุเฮอริเคนเดลต้าพัดถล่ม
พายุเฮอร์ริเคนเดลต้าพัดถล่มพื้นที่ในอ่าวเม็กซิโกเป็นวงกว้าง ส่งผลให้บริษัทพลังงานที่ดำเนินงานในอ่าวเม็กซิโกต้องระงับการผลิตน้ำมันมากกว่า 90% ในวันพฤหัสบดี และต้องมีการอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะ รวมทั้งเริ่มแผนกู้สถานการณ์ที่โรงงานแปรรูปน้ำมันบริเวณชายฝั่ง