สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) ขานรับข่าวจีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 40.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 42.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง หลังจากสำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า จีนนำเข้าน้ำมัน 11.8 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 17.5% เมื่อเทียบรายปี โดยจีนนับเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าโดยรวมของจีนยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน โดยสำนักงานศุลกากรของจีนรายงานว่า ยอดนำเข้าเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 13.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.54% ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 9.9% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9.6% โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าจีนที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ
สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันเมื่อคืนนี้ แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ได้กลับเข้าทำงานแล้ว หลังจากยุติการผละงานประท้วง ส่วนพนักงานของบริษัทขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้กลับเข้าทำงานเช่นกัน หลังจากที่พายุเฮอริเคนเดลต้าได้เคลื่อนตัวผ่านบริเวณดังกล่าว
ทางด้านลิเบียได้เพิ่มการส่งออกน้ำมันในตลาดโลก หลังจากที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลประกาศยุติการปิดล้อมโรงงานน้ำมันภายในประเทศ
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ต.ค.