สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ประกอบกับความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 40.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.43 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 41.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
วานนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 584,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ทางด้านรัสเซียระบุว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้ แม้มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลเรื่องอุปสงค์ ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่อย่างสหรัฐและยุโรป ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ยูเจน ไวน์เบิร์ก นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่พุ่งทำสถิติ จนทำให้มีความเป็นไปได้ที่หลายประเทศจะกลับมาใช้ข้อจำกัดการเดินทางและการสัญจรที่เข้มงวดอีกครั้งนั้น มีแนวโน้มเป็นปัจจัยส่งผลต่อความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตลาดน้ำมันระยะนี้"