สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังมีรายงานว่า บริษัทน้ำมันของสหรัฐที่ดำเนินงานในอ่าวเม็กซิโกได้ระงับการผลิตลงเกือบ 50% เนื่องจากอิทธิพลของพายุ "ซีต้า" ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 39.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 41.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ระบุว่า ณ วันอังคารที่ 27 ต.ค. บริษัทพลังงานที่ดำเนินการในอ่าวเม็กซิโกได้ระงับการผลิตน้ำมันดิบลงราว 49.45% และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติลง 55.35% เพื่อเตรียมรับมือกับพายุซีต้า
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุหมุนเขตร้อนซีต้าได้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 1 ในทะเลแคริบเบียน และได้เคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโก โดยคาดว่าพายุลูกนี้จะพัดถล่มเขตกัลฟ์โคสต์ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ NHC คาดการณ์ว่า ตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดีนี้ จะมีฝนตกหนักในพื้นที่บางส่วนของเขตกัลฟ์โคสต์ไปจนถึงรัฐแถบเทือกเขาแอปพาเลเชียนฝั่งใต้และรัฐแถบมิดแอตแลนติก
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค.