สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ดีดตัวเหนือ 38 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 19.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 2.42% สู่ระดับ 38.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
API รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 890,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้เพื่อยืนยันตัวเลขของ API
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคาน้ำมันถูกจำกัดจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐ รวมทั้งความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดการประชุมในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.2564
ทั้งนี้ โอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่จะลดกำลังการผลิต 5.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก Economist Intelligence Unit (EIU) คาดการณ์ว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไป เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19