สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% ดีดตัวเหนือ 41 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งจะทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะมีแนวทางในการพยุงตลาดน้ำมัน ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อราคาและอุปสงค์น้ำมัน
ณ เวลา 00.12 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 3.24% สู่ระดับ 41.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงในวันนี้ว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 มากกว่า 94%
ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
ตัวแทนของโอเปกพลัสเตรียมจัดการประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางพยุงตลาดน้ำมันในปีหน้า
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของโอเปกพลัส จะจัดการประชุมในวันนี้ ขณะที่คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) จะจัดการประชุมในวันพรุ่งนี้
นอกจากนี้ JTC จะตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตของประเทศสมาชิกในวันนี้
ส่วนการประชุมของโอเปกพลัสเต็มคณะจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
โอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่จะลดกำลังการผลิตเพียง 5.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไป 3-6 เดือน เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะฉุดอุปสงค์น้ำมันในตลาด