สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงกว่า 1% หลุดระดับ 41 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 23.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 43 เซนต์ หรือ 1.04% สู่ระดับ 40.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 11.5 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 252,000 ราย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนก.ย.
การชะลอตัวของยอดค้าปลีกในเดือนต.ค. ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันนี้
ส่วนการประชุมของโอเปกพลัสเต็มคณะจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.
โอเปกพลัสตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่จะลดกำลังการผลิตเพียง 5.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล/วันจากโอเปกพลัสไหลเข้าสู่ตลาดน้ำมันโลก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไป 3-6 เดือน เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะฉุดอุปสงค์น้ำมันในตลาด