สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐลดลงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 42.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 44.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปรับตัวขึ้น 5% ในรอบสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นขานรับการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 231 แท่นในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และจะเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน
ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนีแถลงว่า ทางบริษัทเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน
หาก FDA ให้การอนุมัติ ก็จะส่งผลให้ไฟเซอร์สามารถทยอยใช้วัคซีนดังกล่าวกับชาวอเมริกันกลุ่มต่างๆ โดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ จะได้รับการฉีดวัคซีนก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ให้บริการในภาคส่วนที่สำคัญ ครูอาจารย์ คนจรจัด และนักโทษในเรือนจำ จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มต่อไป ตามมาด้วยกลุ่มเด็กและวัยรุ่น