สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบเพื่อลดความเสี่ยง ก่อนการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในสัปดาห์หน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 45.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 48.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 7.3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 7.2% โดยทั้งสองสัญญาปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
กลุ่มโอเปกพลัสจะประชุมกันในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ โดยนักลงทุนคาดว่า จะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาการปรับลดการผลิตน้ำมันในปัจจุบันออกไปอีก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศลิเบีย รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิด-19
แม้จะมีกระแสคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีก 3-6 เดือน เนื่องจากกังวลว่า มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปจะฉุดอุปสงค์น้ำมันในตลาด แต่การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศลิเบียได้ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าของอังกฤษ หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐ
บรรดานักลงทุนวิตกว่า ความล่าช้าในการผลิตและจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างเชื่องช้า และจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน