สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติคงนโยบายลดการผลิต นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 45.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 48.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หลังจากที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิต 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันดิบไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพียง 500,000 บาร์เรล/วัน โดยมติดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป
นอกจากนี้ โอเปกพลัสจะจัดการประชุมในทุกๆเดือน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นไป เพื่อประเมินภาวะตลาด และเพื่อพิจารณาการปรับเพดานการผลิตน้ำมันในเดือนต่อๆไป
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันสัปดาห์ที่ 2 แม้จะน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลก็ตาม
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 300,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล