สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 48.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังมีรายงานว่า รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงเทศกาลคริสต์มาส เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่ทางตอนใต้และตอนกลางของรัฐ ซึ่งรวมถึงนครลอสแอนเจลิส ให้อยู่แต่ในที่พักอาศัยเป็นเวลา 3 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดหลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 30,000 ราย
ข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 15,370,339 ราย และมีผู้เสียชีวิต 290,474 ราย โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ซึ่งระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 670,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 25.21 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลงราว 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค.