สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนมีความหวังว่าการที่ประเทศต่างๆเริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 23.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 3 เซนต์ หรือ 0.06% สู่ระดับ 47.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.97 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างแกนนำในสภาคองเกรสประสบความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลอันเนื่องจากการขาดแคลนงบประมาณ (ชัตดาวน์)
"เรามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า" นายแมคคอนเนลล์กล่าว
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เชิญแกนนำในสภาคองเกรสเข้าประชุมวานนี้ เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงในประเด็นดังกล่าว โดยแกนนำที่นางเพโลซีเชิญเข้าประชุม ได้แก่ นายแมคคอนเนลล์, นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา และนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมดังกล่าว นางเพโลซียังได้ต่อสายสนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ
หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลเผชิญภาวะชัตดาวน์ในวันที่ 19 ธ.ค. และชาวอเมริกันที่ตกงานจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากสวัสดิการว่างงานในวันที่ 26 ธ.ค.