สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษซึ่งทำให้หลายประเทศพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 47.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนม.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานพบเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 70% โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี อินเดีย ฮ่องกง และแคนาดา
ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ในเช้าวานนี้ตามเวลาไทย โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 90.0400 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นๆ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย