สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งในยุโรปและสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 95 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 47.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 83 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 50.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อรวดเร็วกว่าเดิมในอังกฤษ ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆกว่า 40 ประเทศทั้งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทางจากอังกฤษ
ทางด้านสหรัฐนั้น รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกกฎข้อบังคับให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากอังกฤษต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 นั้น ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ สภาคองเกรสยังได้อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถเปิดดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2564
ขณะนี้ร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ได้ถูกส่งให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นลำดับต่อไป ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ปธน.ทรัมป์จะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค.