สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 48.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 51.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งลงนามในร่างงบประมาณวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถเปิดดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2564
นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งจะพิจารณาการเพิ่มวงเงินในเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันเป็น 2,000 ดอลลาร์ จากเดิม 600 ดอลลาร์ ตามคำเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ หลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 275 ต่อ 134 อนุมัติการเพิ่มวงเงินในเช็คเงินสดดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นักลงทุนรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ม.ค.2564 หลังจากที่มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ซึ่งจะส่งผลให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วัน