สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียสมัครใจที่จะปรับลดการผลิตน้ำมัน และรายงานที่บ่งชี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาดนั้น ได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.41 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 52.24 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 7.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 55.99 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 8.1% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดน้ำมันได้ปัจจัยหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดการผลิตน้ำมันลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่จะโน้มน้าวให้บรรดาผู้ผลิตส่วนใหญ่ของกลุ่มโอเปกพลัสคงการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ. ในช่วงเวลาที่มาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในสัปดาห์นี้ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล